0
0
“วันสารทจีน” ปีที่ผ่านมาตรงกับวันแม่คือ 12 สิงหาคม 2565 พอดีเป๊ะ แต่ทำไมปีนี้หากไปดูที่ปฏิทินถึงไม่ใช่แล้วนะ ใครที่กำลังสงสัยอยู่ อาจคิดว่าแล้วแบบนี้เราควรจะนับอย่างไรกันแน่ วันนี้ทีมข่าวนิวมีเดีย พีพีทีวี ได้รวบรวมคำตอบมาฝากกัน!
วันสารทจีน นับอย่างไร
วันสารทจีน เป็นวันสำคัญของลูกหลานชาวจีนที่จะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ด้วยการทำพิธีเซ่นไหว้ และถือเป็นช่วงที่ประตูนรกจะเปิดให้วิญญาณทั้งหลายมารับกุศลผลบุญได้ ซึ่งจะตรงกับ วันเพ็ญ 15 ค่ำเดือน 7 ตามปีปฏิทินทางจันทรคติของจีน
“เทศกาลสารทจีน” คืออะไร สำคัญอย่างไรกับลูกหลานชาวจีน
“วันสารทจีน” ควรไหว้อะไรบ้าง กับข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม การนับตามปฏิทินจีน เป็นการนับวันเวลาตามดิถีของดวงจันทร์ ทำให้บางปีจะมี 354-355 วัน ซึ่งน้อยกว่าปฏิทินสุริยคติที่เราใช้กันในปัจจุบันประมาณ 11 วัน เพราะอย่างหลังเป็นการนับตามตำแหน่งดวงอาทิตย์ และในบางปีอาจมีมากถึง 383-384 วัน เพราะเป็นการกำหนดให้มีปีอธิกมาส (การนับเดือนซ้ำกัน 2 หน) ขึ้น ซึ่งทุกๆ 19 ปีจะเวียนมาครั้งนึง เพื่อทดแทนให้มีจำนวนวันครบตามจำเป็น
วันสารทจีนปีนี้ ตรงกับวันที่เท่าไร
จะเห็นได้ว่าการนับวันเวลาตามวิถีจีนโบราณและแบบสากลนั้นต่างกัน จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมวันสารทจีนที่เราเห็นกันในปฏิทินตอนนี้ถึงไม่ตรงกันนั่นเอง และในปีนี้ตามปฏิทินสากล วันสารทจีนจะตรงกับวันพุธที่ 30 สิงหาคม 2566
ตำนานวันสารทจีนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ที่มาของความเชื่อใน“สารทจีน”นั้น มีอยู่ 2 ตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา
ตำนานแรก
วันเพ็ญ 15 ค่ำเดือน 7 เป็นวันที่ “เงี่ยมล้อเทียนจือ” (ยมบาล)จะตรวจดูบัญชีวิญญาณคนตาย ส่งวิญญาณดีขึ้นสวรรค์ และส่งวิญญาณร้ายลงนรกชาวจีนรู้สึกสงสารวิญญาณ จึงทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ นรกจึงเปิดประตู เพื่อให้วิญญาณร้ายออกมารับกุศลผลบุญได้ ขณะเดียวกันก็มีการเปิดโอกาสให้วิญญาณของผู้ล่วงลับไปแล้วกลับมาเยี่ยมครอบครัวของตัวเองในโลกมนุษย์ได้ด้วย
ตำนานที่สอง
มีชายหนุ่มผู้หนึ่งชื่อ“มู่เหลียน”(พระมหาโมคคัลลานะ) เป็นคนเคร่งครัดในพุทธศาสนามาก ผิดกับมารดาที่เป็นคนใจบาปหยาบช้าไม่เคยเชื่อเรื่องนรกสวรรค์มีจริง ปีหนึ่งในช่วงเทศกาลกินเจนางเกิดความหมั่นไส้คนที่นุ่งขาวห่มขาวถือศีลกินเจ นางจึงให้มู่เหลียนไปเชิญผู้ถือศีลกินเจเหล่านั้นมากินอาหารที่บ้านโดยนางจะทำอาหารเลี้ยงหนึ่งมื้อ
ผู้ถือศีลกินเจต่างพลอยยินดีที่ทราบข่าวว่ามารดาของมู่เหลียนเกิดศรัทธาในบุญกุศลครั้งนี้ จึงพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียนแต่ไม่รู้ว่าในน้ำแกงเจนั้นมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ด้วย การกระทำของมารดามู่เหลียนนั้นถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจีมหานรกขุมที่ 8 เป็นนรกขุมลึกที่สุดได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส
เมื่อมู่เหลียนคิดถึงมารดา ก็ได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรกภูมิ จึงได้รู้ว่ามารดาของตัวเองกำลังอดอยาก จึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งไปกินหมดและเม็ดข้าวสุกที่ป้อนนั้นกลับเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดาจนพอง แต่ด้วยความกตัญญูและสงสารมารดาที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส มู่เหลียนได้เข้าไปขอพญาเหงี่ยมล่ออ๊อง (ยมบาล) ว่าตัวเองขอรับโทษแทนมารดา
แต่ก่อนที่มู่เหลียนจะถูกลงโทษด้วยการนำร่างลงไปต้มในกระทะทองแดง พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทัน โดยกล่าวว่ากรรมใดใครก่อก็ย่อมจะเป็นกรรมของผู้นั้นและพระพุทธเจ้าได้มอบคัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน ให้มู่เหลียนท่องเพื่อเรียกเซียนทุกทิศทุกทางมาช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอดอยากและทุกข์ทรมานต่าง ๆ ได้ โดยที่มู่เหลียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋ว หลันเผินและถวายอาหารทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิดจึงจะสามารถช่วยมารดาของเขาให้พ้นโทษได้
ในวันสำคัญนี้ชาวจีนจึงมีการไหว้บรรพบุรุษและเซ่นไหว้วิญญาณเร่รอนเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมา สำหรับการไหว้นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 สถานที่หลักๆ คือ จะไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วภายในบ้าน และวิญญาณเร่ร่อนนั้นจะทำนอกบ้าน ส่วนทำไมถึงต้องไหว้วิญญาณเร่ร่อนด้วยนั้น มีความเชื่ออีกว่า ถ้าไม่ทำให้ บรรพบุรุษของเราอาจถูกแย่งอาหารก็เป็นไปได้
เทศกาลสารทจีนนอกจากจะเป็นประเพณีที่ลูกหลานแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษซึ่งล่วงลับไปแล้ว ยังเป็นประเพณีที่สืบสารวัฒนธรรมการทำความดี แฝงคำสอนให้มีจิตใจเมตตา อุทิศส่วนกุศลให้แก่คนตายในปรโลกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : SHANGHAI INTERNATIONAL STUDIES UNIVERSITY, Myhora และ Wikipedia
12 ข้อแนะนำ ช่วงเทศกาลสารทจีน
ส่อง สองตำนาน “วันสารทจีน” หรือ “วันไหว้ผี”
