Thu. Sep 19th, 2024
0 0
Read Time:6 Minute, 29 Second

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ณ ห้องราชดำเนิน ชั้น 2 อาคารราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงนโยบายและมาตรการเพื่อป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง และการติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5

นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เกิดปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 มาจากภาคการขนส่งถึง 61% และจากภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้างอีก 39% กระทรวงคมนาคมและ กทม. บูรณาการร่วมกันเร่งรัดแก้ไขปัญหาและกำหนดมาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดจัดทำนโยบายเชิงรุกในการป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม และกำหนดมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน รวมถึงติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 ดังนี้

กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ดำเนินการตรวจควันดำและฝุ่น PM 2.5 เชิงรุก โดยจัดเจ้าหน้าที่ชุดตรวจการขนส่งทางบกเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ตรวจสอบค่า PM 2.5 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน และชุดเฉพาะกิจเข้าให้คำแนะนำ ป้องกันการปล่อยควันดำรถโดยสารไม่ประจำทาง ณ สถานประกอบการ โดย ขบ. บูรณาการร่วมกับ กทม. จัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ออกตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ณ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ 233 แห่ง และสถานประกอบการ ได้แก่ แพลนท์ปูน บริเวณไซต์งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฯ อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่กองตรวจการลงพื้นที่ตรวจสอบรถโดยสารประจำทางหมวด 1 ณ อู่รถเมล์ ขสมก. ทั้ง 8 เขตการเดินรถ 21 แห่ง รวมถึงรถโดยสารประจำทาง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร เอกมัย สายใต้) นอกจากนี้ ขบ. สนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าผ่านมาตรการทางภาษีประจำปี รวมทั้งดำเนินแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมการเดินทางของประชาชน เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลต่อไป

กรมการขนส่งทางราง (ขร.) สนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น ผ่านนโยบายอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีม่วง พร้อมผลักดันระบบขนส่งทางรางเปลี่ยนมาใช้รถไฟ EV on Train มาให้บริการประชาชน เพื่อลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ ด้วยการนำเทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) แทนที่ยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของกระทรวงคมนาคมคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในบริเวณโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ประกอบด้วย 1.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 2.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 3.ช่วงนครปฐม-ชุมพร 4.ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ 5.ช่วงบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด ให้ดำเนินมาตรการจำกัดพื้นที่การทิ้งและห้ามเผาขยะ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดฝุ่น PM 2.5 และติดรั้วป้องกันฝุ่นละออง โดยเพิ่มปริมาณการฉีดน้ำทำความสะอาดในพื้นที่ก่อสร้าง ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรให้พร้อมใช้งาน จัดชุดทำความสะอาดล้อรถก่อนขึ้นถนนสาธารณะ ทั้งนี้ รฟท. ดำเนินแผนใช้เชื้อเพลิงไบโอดีเซล ซึ่งถือเป็นพลังงานทางเลือก ช่วยลดมลพิษทางอากาศ และดำเนินโครงการจัดหารถจักรรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมปรับปรุงพื้นที่โรงซ่อมบำรุงให้สอดคล้องกับกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินมาตรการลดฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า โดยกำชับและสั่งการให้ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทุกโครงการ ต้องติดตั้งรั้วสูง 2 เมตร ล้อมรอบพื้นที่ก่อสร้างและปิดคลุมกองวัสดุก่อสร้าง/กระบะรถบรรทุกเพื่อป้องกันฝุ่นละออง พร้อมทั้งทำความสะอาดถนนสาธารณะ โดยใช้รถกวาดดูดฝุ่นและการฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณพื้นที่ก่อสร้างในช่วงที่มีค่า PM 2.5 สูง และตรวจสอบสภาพเครื่องจักรที่ใช้ก่อสร้างให้อยู่ในสภาพดี ไม่ให้มีควันดำหรือควันขาว

บริษัท ขนส่ง จํากัด (บขส.) ดำเนินมาตรการด้านรถโดยสาร 3 ด้าน ดังนี้ 1.บริหารจัดการเกี่ยวกับรถโดยสาร ตรวจวัดควันดำรถโดยสารก่อนนำรถออกให้บริการประชาชน 2.การปรับลดเส้นทางเดินรถ และควบรวมเที่ยววิ่งรถโดยสาร เพื่อปรับลดจำนวนเส้นทางเดินรถโดยสารและเที่ยววิ่งรถ และ 3.จัดหารถโดยสาร EV ทดแทนรถโดยสารที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการนำรถ EV BUS เข้าวิ่งในระบบมากขึ้น ในส่วนการบริหารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร เอกมัย สายใต้) ดำเนินการทำความสะอาดโดยรอบอาคารผู้โดยสาร เพื่อลดฝุ่นละอองและประชาสัมพันธ์ เมื่อรถเข้าใช้ชานชาลา ให้ดับเครื่องยนต์และสตาร์ตเครื่องยนต์ก่อนออกเดินรถ รวมทั้งมีแผนจะให้ บขส. เป็นฟีดเดอร์ โดยมีจุดรับส่งผู้โดยสารอยู่บริเวณชานเมือง เพื่อป้อนคนมาใช้รถไฟฟ้าเข้าเมืองแทน ลดปัญหารถติดและปล่อย PM 2.5 ด้วย ซึ่งแผนดังกล่าว จะต้องหารือหน่วยงานที่เกียวข้องดำเนินการที่ชัดเจนต่อไป โดยแผนนี้ช่วยรองรับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ถึงขั้นวิกฤติต่อไป

กรมทางหลวง (ทล.) ดำเนินการจำกัดพื้นที่หน้างานก่อสร้างและบำรุงทางที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองน้อยที่สุด กำชับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรก่อสร้างให้อยู่ในสภาพดี รวมทั้งงดใช้น้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วกับเครื่องจักรจัดการขยะอย่างเหมาะสม และห้ามเผาขยะโดยเด็ดขาด โดย ทล. ร่วมสร้างเครือข่ายผู้ประสานงาน PM 2.5 ภายใต้ชื่อกลุ่ม “PM 2.5 DOH” เพื่อรายงานผลการดำเนินงานแบบรายวัน ในการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองของหน่วยงาน ทลคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อีกทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือในการป้องกันและควบคุมไฟป่า โดยใช้รถบรรทุกฉีดน้ำเพื่อเข้าระงับเหตุ กรณีเกิดไฟป่าหรือไฟไหม้สองข้างทางหลวง

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ดำเนินมาตรการลดปัญหาสภาพการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ และติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำแรงดันสูง ที่ควบคุมการทำงานโดยการวัดคุณภาพอากาศ บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางของทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) โดยเครื่องพ่นละอองน้ำแรงดันสูงจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบค่า PM 2.5 เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ทั้งนี้ อยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำแรงดันสูงแบบควบคุม ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ 28 แห่ง

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เข้มงวดตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารทุกคันทุกวัน หากมีค่าควันดำเกินมาตรฐาน จะนำรถส่งเข้าซ่อมบำรุงโดยทันที และตรวจเช็กรถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หัวฉีด ไส้กรองไอเสีย ไส้กรองอากาศ ท่อพักไอเสีย ล้างทำความสะอาดท่อไอเสียของรถโดยสาร รวมทั้งทำความสะอาดอู่จอดรถและรถโดยสารเพื่อชะล้างฝุ่นละออง

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีอัตราการใช้รถยนต์บนท้องถนน การก่อสร้าง และโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ฯลฯ เป็นสาเหตุเกิดมลพิษทางอากาศฝุ่น PM 2.5 โดย กทม. จัดทำแผนลดฝุ่น 365 วัน ค่าฝุ่นไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.และแผนบริหารจัดการฝุ่นระยะวิกฤตที่มีค่าฝุ่น ตั้งแต่ 37.6 มคก./ลบ.ม. เพื่อติดตามเฝ้าระวัง กำจัดต้นตอ ป้องกันประชาชน และการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แบบทุกมิติ

พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับ ขบ. ออกตรวจสอบวัดค่าควันดำรถบรรทุก ณ สถานประกอบการ ได้แก่ แพลนท์ปูน บริเวณไซต์งานก่อสร้างสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ โรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฯ ตลอดจนเข้มงวดกวดขันป้องกันรถบรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมทั้งอนาคตมีแผนพิจารณาใช้ระบบบัสเลนในบางพื้นที่ที่มีความพร้อมและรถติด เช่น ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งมาตรการนี้หากใช้จริงต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ กทม. มีแผนจะทำระบบฟีดเดอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสาร เน้นเส้นทางชานเมือง โดยทดลองเดินรถก่อน หากเส้นทางได้รับความนิยม จะเปิดให้เอกชนเข้ามาเดินรถต่อไป  

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม และ กทม. พร้อมบูรณาการติดตามผลการดำเนินงาน ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม รายงานทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน มายังสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อดำเนินการต่อไป

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin